!!!ดาวใต้นิวส์ออนไลน์!!! รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะ หารือศูนย์ให้คำปรึกษาและบำบัดรักษายาเสพติด Fixpunkt Berlin และเยี่ยมชมบริการการให้คำปรึกษา การลดอันตรายจากการใช้สารเสพติดสำหรับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส
นราธิวาส/นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะ หารือศูนย์ให้คำปรึกษาและบำบัดรักษายาเสพติด Fixpunkt Berlin และเยี่ยมชมบริการการให้คำปรึกษา การลดอันตรายจากการใช้สารเสพติดสำหรับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส และการให้บริการห้องใช้ยาเสพติดแบบถาวรและแบบเคลื่อนที่」
ทั้งนี้ ในอดีตประเทศเยอรมนีมีแนวคิดในการลดจำนวนยาเสพติด แต่พบว่าต่อให้ยึดสิ่งเสพติดเท่าไร ก้อไม่สามารถลดจำนวนยาเสพติดในตลาดได้ ต่อมาจึงได้เปลี่ยนกลยุทธ์เป็นการยึดหลักการ ”ผู้เสพคือผู้ป่วย“ โดยพยายามทำให้สถานที่ต่าง ๆ อาทิ สถานีรถไฟ โรงเรียน มีความปลอดภัย กฎหมายของประเทศเยอรมนีจึงอนุญาตให้จัดให้มีสถานที่/ห้องในการเสพยาเสพติดได้ โดยต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรมก่อน ทั้งนี้ สถานที่/ห้องดังกล่าว ต้องมีความสะอาด มีความพร้อมทางการแพทย์ และมีแนวทางในการบำบัด ลดการเสพ หรือให้คำแนะนำ เพื่อนำไปสู่การเลิกยาเสพติดด้วย สำหรับการครอบครอง และค้ายาเสพติดนั้น ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมายเยอรมนี
สำหรับศูนย์ให้คำปรึกษาและบำบัดรักษายาเสพติด Fixpunkt Berlin เปิดมาตั้งแต่ปี 1989 (พ.ศ.2532) ปัจจุบันได้รับงบประมาณ 3.5 ล้านยูโร ต่อปี โดยศูนย์ฯ ดำเนินงานในรูปแบบ “การใช้ชุมชนเป็นตัวขับเคลื่อน” (Community-bassed outreach) โดยจะจัดตั้งในพื้นที่ที่ยาเสพติดระบาด รวมถึงมีการจัดบริการในรูปแบบรถเคลื่อนที่ด้วย โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการดำเนินงานเพื่อลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด (Harm Reduction) มากกว่าการลงโทษทางอาชญากรรม ดังนั้น ในทางปฏิบัติศูนย์ฯ จึงต้องทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนด้วยความโปร่งใส ภายใต้การทำงานแบบสหวิชาชีพ อาทิ หน่วยงานราชการ นักสังคมสงเคราะห์ บุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น เพื่อจะได้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสมกับแต่ละกรณี เช่น การจำหน่าย / จัดสรร เข็มฉีดยาที่สะอาด การจัดหางานให้ผู้เสพยา การส่งผู้เสพยาไปตรวจหาสารเสพติด
ภายหลังจากการหารือฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ได้เยี่ยมชมการให้บริการ ณ ศูนย์ให้คำปรึกษาและบำบัดรักษายาเสพติด Fixpunkt Berlin หน่วยเคลื่อนที่ในการให้คำปรึกษา ห้องใช้สารเสพติดเครื่อนที่ และห้องให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินเคลื่อนที่ ซึ่งองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้และศึกษาดูงานดังกล่าว จะเป็นแนวทางให้ทุกหน่วยงานนำไปพัฒนางานด้านการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดในประเทศไทยต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น